บทความเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่าง BNB และ BTC รวมถึงข้อมูลที่สำคัญและคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเหรียญเหล่านี้
BNB ถูกสร้างขึ้นในปี 2017 โดย Binance เพื่อช่วยในการลดค่าธรรมเนียมการซื้อขายของผู้ใช้ในแพลตฟอร์มของตน ในปี 2020 Binance ได้ทำการปรับโครงสร้าง BNB ให้เป็นเหรียญที่สามารถใช้ในแอปพลิเคชันต่างๆ รวมถึงการชำระเงินและการลงทุน ทำให้ BNB กลายเป็นเหรียญที่มีการใช้งานหลากหลายมากขึ้น
BTC ถูกสร้างขึ้นในปี 2009 โดย Satoshi Nakamoto ซึ่งเป็นชื่อที่ใช้เพื่อปกปิดตัวตนของผู้สร้าง Bitcoin โดย BTC ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ไม่มีการควบคุมจากรัฐบาลหรือธนาคารกลาง และเป็นสกุลเงินที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในการทำธุรกรรม
การป้องกันการฉ้อโกงใน BNB เป็นหนึ่งในเรื่องที่สำคัญที่สุดสำหรับนักลงทุนและผู้ใช้งานในระบบสกุลเงินดิจิทัล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ BNB (Binance Coin) ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ การฉ้อโกงในสกุลเงินดิจิทัลมีหลายรูปแบบ เช่น การฟิชชิง การทำซ้ำของเว็บไซต์ และการหลอกลวงอื่นๆ ที่อาจทำให้ผู้ใช้งานสูญเสียเงินลงทุนได้ ดังนั้นการรู้จักวิธีการป้องกันการฉ้อโกงจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ระบบการตรวจสอบตัวตนที่เข้มงวด การใช้กระเป๋าสตางค์ที่ปลอดภัย หรือการให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการสังเกตและระมัดระวังในการทำธุรกรรมต่างๆ
Fraud prevention in BNB is one of the most important issues for investors and users in the cryptocurrency system, especially as BNB (Binance Coin) continues to gain popularity. Fraud in digital currencies takes many forms, such as phishing, website duplication, and other scams that can lead users to lose their investments. Therefore, knowing how to prevent fraud is essential, whether it involves using stringent identity verification systems, utilizing secure wallets, or educating users on how to observe and be cautious in various transactions.